Customer Reviews

เป็นหนังสือเล่มแรกๆที่ผมอ่านและทำให้ผมสร้างตัวจากหุ้นได้มาจนถึงทุกวันนี้ (คิดว่าคงเหมือนกับอีกหลายๆท่าน)เนื้อหาดูเผินๆเหมือนไม่มีอะไรแต่ กลับเป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้ปิ๊งได้ว่า การเล่นหุ้นไม่ใช่การเล่นหุ้น แต่เป็นการลงทุนในธุรกิจที่ต้องมีการดำเนินกิจการจริงๆ ไม่ใช่วันๆเอาแต่ซื้อๆขายๆ หลักสำคัญคือต้องมองหุ้นเป็น "ธุรกิจ" เหมือนเป็นหนังสือที่มีมนต์สะกดเลยทีเดียวถ้าใครอ่านครั้งแรกแล้วกลายเป็น VI เลยก็แสดงว่าเขามีคุณสมบัติที่เหมาะจะเป็นนักลงทุนระยะยาว แต่ถ้าใครอ่านแล้วก็ผ่านไป ขอบอกว่าท่านอาจจะกำลังเสียโอกาสทองในชีวิตไปเลยก็ได้

เป็นหนังสือเล่มแรกๆที่ผมอ่านและทำให้ผมสร้างตัวจากหุ้นได้มาจนถึงทุกวันนี้ (คิดว่าคงเหมือนกับอีกหลายๆท่าน)เนื้อหาดูเผินๆเหมือนไม่มีอะไรแต่ กลับเป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้ปิ๊งได้ว่า การเล่นหุ้นไม่ใช่การเล่นหุ้น แต่เป็นการลงทุนในธุรกิจที่ต้องมีการดำเนินกิจการจริงๆ ไม่ใช่วันๆเอาแต่ซื้อๆขายๆ หลักสำคัญคือต้องมองหุ้นเป็น "ธุรกิจ" เหมือนเป็นหนังสือที่มีมนต์สะกดเลยทีเดียวถ้าใครอ่านครั้งแรกแล้วกลายเป็น VI เลยก็แสดงว่าเขามีคุณสมบัติที่เหมาะจะเป็นนักลงทุนระยะยาว แต่ถ้าใครอ่านแล้วก็ผ่านไป ขอบอกว่าท่านอาจจะกำลังเสียโอกาสทองในชีวิตไปเลยก็ได้

ใครที่ดูหนังแล้วก็ควรจะซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านคู่กันไปด้วยเลย เพราะมันดีทั้งหนังและทั้งหนังสือ เป็นอะไรที่ให้แรงบันดาลใจได้ดีมากๆ ในหนังสือจะใช้ศัพท์แบบเป็นกันเองดูแล้วท่าทางเหมือนจะเขียนเองมากกว่าให้คนอื่นแต่งให้ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ต่อกัน แต่ก็อ่านง่ายและไม่เย่นเย้อ และในเรื่องจะพูดถึงทั้งที่น้องเค้าทำสำเร็จและความผิดพลาดในการทำธุรกิจบางอย่างก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จกับสาหร่าย บางเรื่องที่เค้าก็ยอมรับว่าคิดผิดเช่น ป่าล้อมเมือง หรือเรื่องที่สามารถนำของเข้า 7-11 ได้ทั้งที่ไม่เคยรู้เรื่องว่าการนำสินค้าเข้า 7 นั้นยากมากขนาดไหน เนื่องจากยังเป็นเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งข้อนี้อาจจะกลายเป็นข้อดีด้วยซ็ำเพราะสามารถลุยไปข้างหน้าโดยไม่คิดมากเหมือนกับผู้ใหญ่หลายๆคน ต๊อบเขาจริงๆแล้วต้องบอกว่ามีหัวการค้าไม่ต่างจากคุณตันและไม่เคยยอมแพ้เมื่อทำธุรกิจผิดพลาดแต่จะกลับมาจับธุรกิจอื่นที่มองเห็นโอกาสตอนทำธุรกิจเดิมอยู่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จทางธุรกิจที่น่าติดตามต่อไปว่าเถ้าแก่น้อยจะไปได้ถึงระดับโลกหรือไม่

ใครที่ดูหนังแล้วก็ควรจะซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านคู่กันไปด้วยเลย เพราะมันดีทั้งหนังและทั้งหนังสือ เป็นอะไรที่ให้แรงบันดาลใจได้ดีมากๆ ในหนังสือจะใช้ศัพท์แบบเป็นกันเองดูแล้วท่าทางเหมือนจะเขียนเองมากกว่าให้คนอื่นแต่งให้ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ต่อกัน แต่ก็อ่านง่ายและไม่เย่นเย้อ และในเรื่องจะพูดถึงทั้งที่น้องเค้าทำสำเร็จและความผิดพลาดในการทำธุรกิจบางอย่างก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จกับสาหร่าย บางเรื่องที่เค้าก็ยอมรับว่าคิดผิดเช่น ป่าล้อมเมือง หรือเรื่องที่สามารถนำของเข้า 7-11 ได้ทั้งที่ไม่เคยรู้เรื่องว่าการนำสินค้าเข้า 7 นั้นยากมากขนาดไหน เนื่องจากยังเป็นเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งข้อนี้อาจจะกลายเป็นข้อดีด้วยซ็ำเพราะสามารถลุยไปข้างหน้าโดยไม่คิดมากเหมือนกับผู้ใหญ่หลายๆคน ต๊อบเขาจริงๆแล้วต้องบอกว่ามีหัวการค้าไม่ต่างจากคุณตันและไม่เคยยอมแพ้เมื่อทำธุรกิจผิดพลาดแต่จะกลับมาจับธุรกิจอื่นที่มองเห็นโอกาสตอนทำธุรกิจเดิมอยู่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จทางธุรกิจที่น่าติดตามต่อไปว่าเถ้าแก่น้อยจะไปได้ถึงระดับโลกหรือไม่

ผมจบมหาลัยตอนอายุ 23 แล้วก็ยังไม่ได้ลองไปทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นเลย ก็อาจจะไม่ได้มีประสบการณ์แบบผู้เขียน ซึ่งผมนั้นที่ไม่ได้ไปทำงาน ก็เลยหันมาลงทุนเต็มเวลา ซึ่งขณะนี้ก็ผ่านมาเกือบจะ 6 ปีแล้วก็ได้มีพอร์ตใหญ่พอสมควร(ขอไม่บอกละกัน)ซึ่งสามารถมีรายได้ถ้านับเป็นเดือนก็อยู่ได้สบายมากๆ ถ้ามองย้อนกลับไปถ้าตอนที่ผมอายุ 21 แล้วไม่เริ่มลงทุนแต่ไปทำงานกินเงินเดือน ก็คงไม่สามารถที่จะมีรายได้เข้ามาทุกเดือนแบบนี้ แต่คุณก็จะไม่ได้ประสบการณ์ของการทำงาน บางทีชีวิตคนเราเลือกเดินทางหนึ่งแล้วอย่าลืมว่าคุณต้องเสียสละอีกทางหนึ่งไปด้วย ถ้าจะลาออกมาจากงานก็ต้องคิดให้มาก และอย่าหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด ส่วนหนังสือเล่มนี้ผมมองว่าเขียนเป็นหนังสือตลาด ที่จะจับกลุ่มเหล่าคนที่ทำงานอยู่ แล้วมีความคิดอยากลาออก ในหนังสือก็ไม่ค่อยให้ความรู้เท่าไหร่ จะเล่าแต่เรื่องของผู้เขียนซะเป็นส่วนมาก ถ้าจะให้ผมแนะนำก็ต้องบอกว่าคุณต้องมีรายได้แบบ passive ให้เยอะพอเสียก่อนถึงควรจะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวหรือลงทุนเต็มเวลา

ผมจบมหาลัยตอนอายุ 23 แล้วก็ยังไม่ได้ลองไปทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นเลย ก็อาจจะไม่ได้มีประสบการณ์แบบผู้เขียน ซึ่งผมนั้นที่ไม่ได้ไปทำงาน ก็เลยหันมาลงทุนเต็มเวลา ซึ่งขณะนี้ก็ผ่านมาเกือบจะ 6 ปีแล้วก็ได้มีพอร์ตใหญ่พอสมควร(ขอไม่บอกละกัน)ซึ่งสามารถมีรายได้ถ้านับเป็นเดือนก็อยู่ได้สบายมากๆ ถ้ามองย้อนกลับไปถ้าตอนที่ผมอายุ 21 แล้วไม่เริ่มลงทุนแต่ไปทำงานกินเงินเดือน ก็คงไม่สามารถที่จะมีรายได้เข้ามาทุกเดือนแบบนี้ แต่คุณก็จะไม่ได้ประสบการณ์ของการทำงาน บางทีชีวิตคนเราเลือกเดินทางหนึ่งแล้วอย่าลืมว่าคุณต้องเสียสละอีกทางหนึ่งไปด้วย ถ้าจะลาออกมาจากงานก็ต้องคิดให้มาก และอย่าหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด ส่วนหนังสือเล่มนี้ผมมองว่าเขียนเป็นหนังสือตลาด ที่จะจับกลุ่มเหล่าคนที่ทำงานอยู่ แล้วมีความคิดอยากลาออก ในหนังสือก็ไม่ค่อยให้ความรู้เท่าไหร่ จะเล่าแต่เรื่องของผู้เขียนซะเป็นส่วนมาก ถ้าจะให้ผมแนะนำก็ต้องบอกว่าคุณต้องมีรายได้แบบ passive ให้เยอะพอเสียก่อนถึงควรจะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัวหรือลงทุนเต็มเวลา

ขออนุญาติเขียนรีวิวให้หนังสือเล่มโปรดนิดนะครับ นักลงทุนดันโดเป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นคุณค่าที่ค่อนข้างดีอีกเล่มหนึ่งที่ถูกแปลมาจากภาษาอื่น ในเล่มจะอธิบายถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนด้วยวิธีที่เน้นคุณค่าและพื้นฐานของทรัพย์สิน ไม่ใช่เฉพาะแค่หุ้น แต่อาจจะรวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ประเภทโรงแรม หรืออะไรก็ตามที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง หรือทรัพย์สินบางอย่างที่ในอนาคตสามารถสร้าง cashflow ได้มากกว่าในปัจจุบันมาก ซึ่งการลงทุนแนวนี้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่บุคคลเหล่านี้หรือครอบครัวเหล่านี้อย่างมหาศาล และเป็นเรื่องราวที่ถูกใช้ในหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนใหญ่ วิธีและหลักการนั้นจะถูกอธิบายอย่างละเอียดภายในเล่ม เพราะฉะนั้นนักลงทุนดันโดต้องถือเป็นหนังสือการลงทุนอีกเล่มที่จะช่วยขัดเกลาหลักการให้แก่นักลงทุนหุ้นคุณค่าผู้มีความมุ่งมั่นได้อย่างมากมายแน่นอน

ขออนุญาติเขียนรีวิวให้หนังสือเล่มโปรดนิดนะครับ นักลงทุนดันโดเป็นหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นคุณค่าที่ค่อนข้างดีอีกเล่มหนึ่งที่ถูกแปลมาจากภาษาอื่น ในเล่มจะอธิบายถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนด้วยวิธีที่เน้นคุณค่าและพื้นฐานของทรัพย์สิน ไม่ใช่เฉพาะแค่หุ้น แต่อาจจะรวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ประเภทโรงแรม หรืออะไรก็ตามที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง หรือทรัพย์สินบางอย่างที่ในอนาคตสามารถสร้าง cashflow ได้มากกว่าในปัจจุบันมาก ซึ่งการลงทุนแนวนี้สามารถสร้างความมั่งคั่งให้แก่บุคคลเหล่านี้หรือครอบครัวเหล่านี้อย่างมหาศาล และเป็นเรื่องราวที่ถูกใช้ในหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนใหญ่ วิธีและหลักการนั้นจะถูกอธิบายอย่างละเอียดภายในเล่ม เพราะฉะนั้นนักลงทุนดันโดต้องถือเป็นหนังสือการลงทุนอีกเล่มที่จะช่วยขัดเกลาหลักการให้แก่นักลงทุนหุ้นคุณค่าผู้มีความมุ่งมั่นได้อย่างมากมายแน่นอน

เป็นอีก 1 เรื่องราวของคนที่เริ่มจาก 0 แล้ว สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนสามารถมีเงินหลายร้อยล้านบาทได้ ก่อนที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้ท่านสามารถหาเรื่องราวคร่าวๆเกี่ยกับผู้เขียนได้จาก google โดยการพิมพ์ชื่อของเขาเข้าไป ท่านก็จะพบว่าได้มีหนังสือพิมพ์บางฉบับได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับนักลงทุนผู้นี้ใว้บ้างแล้ว เรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก และวัยทำงาน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และมีวิธีคิดในการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างไรบ้าง

เป็นอีก 1 เรื่องราวของคนที่เริ่มจาก 0 แล้ว สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนสามารถมีเงินหลายร้อยล้านบาทได้ ก่อนที่จะซื้อหนังสือเล่มนี้ท่านสามารถหาเรื่องราวคร่าวๆเกี่ยกับผู้เขียนได้จาก google โดยการพิมพ์ชื่อของเขาเข้าไป ท่านก็จะพบว่าได้มีหนังสือพิมพ์บางฉบับได้เคยเขียนบทความเกี่ยวกับนักลงทุนผู้นี้ใว้บ้างแล้ว เรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก และวัยทำงาน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และมีวิธีคิดในการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างไรบ้าง

ปรกติผมเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือประวัติชีวิตของเศรษฐีเลย เล่มนี้ผมก็จัดไป เพราะผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับ 3 เจ๊ท่านนี้เท่าไหร่ ก็ขอบอกว่า ข้อมูลในหนังสือเยอะมากๆๆๆๆ และเขียนไม่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนหนังสือบางเล่ม และภายในเล่มยังแฝงไปด้วย เทคนิคลับในการดำรงชีวิต เช่นการประหยัด การเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก การไม่ท้อถอย หรือเทคนิคในการทำธุรกิจอื่นๆอีก ที่แอบอยู่ในถ้อยคำที่ถูกเรียบเรียงมาจากปากของ เจ๊ทั้ง 3 ท่านเอง มีหลายอย่างที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจที่บ้านผมด้วย เช่นการขยายสาขา บางทีเราอาจจะไม่ต้องขยายสาขาให้เยอะ แต่ควรทำสาขาเดียวให้ดีที่สุดอาจจะดีกว่าก็เป็นได้ โดยรวมแล้วเป็นหนังสือแนวชีวประวัติที่ค่อนข้างดีอีกเล่มหนึ่ง

ปรกติผมเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือประวัติชีวิตของเศรษฐีเลย เล่มนี้ผมก็จัดไป เพราะผมยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับ 3 เจ๊ท่านนี้เท่าไหร่ ก็ขอบอกว่า ข้อมูลในหนังสือเยอะมากๆๆๆๆ และเขียนไม่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนหนังสือบางเล่ม และภายในเล่มยังแฝงไปด้วย เทคนิคลับในการดำรงชีวิต เช่นการประหยัด การเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก การไม่ท้อถอย หรือเทคนิคในการทำธุรกิจอื่นๆอีก ที่แอบอยู่ในถ้อยคำที่ถูกเรียบเรียงมาจากปากของ เจ๊ทั้ง 3 ท่านเอง มีหลายอย่างที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจที่บ้านผมด้วย เช่นการขยายสาขา บางทีเราอาจจะไม่ต้องขยายสาขาให้เยอะ แต่ควรทำสาขาเดียวให้ดีที่สุดอาจจะดีกว่าก็เป็นได้ โดยรวมแล้วเป็นหนังสือแนวชีวประวัติที่ค่อนข้างดีอีกเล่มหนึ่ง

ถ้าไม่อยากเสียตังค์ปล่าวต้องอย่าซื้อหนังสือเล่มนี้ ต้องขออภัยที่ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ไม่ได้ให้ความรู้ผมเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว

ถ้าไม่อยากเสียตังค์ปล่าวต้องอย่าซื้อหนังสือเล่มนี้ ต้องขออภัยที่ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ไม่ได้ให้ความรู้ผมเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็ได้เรียนรู้เรื่องราวของสตีฟจ๊อบและบริษัทแอปเปิลก่อนที่จะมีการออกสินค้าระดับโลกอย่าง iphone และ ipad เนื้อหาภายในเล่มจะละเอียดมาก (ก็แหงล่ะดูเล่นใหญ่ขนาดนี้) เริ่มตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทแอปเิปิลเลยทีเดียว

ซึ่งแท้จริงแ้ล้วสำหรับคนที่ซื้อไอโฟนหรือไอแพด อาจจะไม่เคยสนใจเรื่องราวต่างๆของบริษัทๆนี้ แต่ที่จริงแล้วแอปเิปิลนั้นเป็น 1 ใบบริษัทจากประเทศอเมริกาที่มีความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมไอทีมาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วเลยทีเดียว(เริ่มก่อตั้งช่วงเดียวกับ microsoft) โดยเริ่มต้นจากผู้ก่อตั้ง 2 คนในโรงรถของพวกเขาคือ สตีฟจ๊อบส์ และ สตีฟวอซนิแอค โดยสตีฟจ๊อบส์เป็นนักการตลาดที่เก่งกาจ ส่วนสตีฟวอซนิแอคก็เป็นช่างเทคนิคที่อาจจะเรียกได้ว่าหาผู้ที่ีเก่งกว่าได้ยากเต็มที เขาสองคนได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์่สวนบุคคลที่ขายดีสุด(ในยุคนั้น) ที่มีชื่อว่า apple II (เด็กสมัยนี้คงไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนหล่ะ 555)

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่บริษัทได้ผ่านวิกฤตอย่างหนักเนื่องจากการเปลี่ยนผู้บริหารและไม่สามารถนำนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ตลาดได้อย่างประสบความสำเร็จ และในระหว่างนั้นเองที่เนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้ได้เล่าเรื่องราวระหว่างนี้ของสตีฟ จ๊อบส์ที่เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในบริษัทผลิตการ์ตูนอย่าง Pixar โดยเริ่มแรกนั้น Pixar ไม่ได้เป็นบริษัททำหนังด้วยซ้ำ (ตอนแรกทำเกี่ยวกับพวกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์) และก็เป็นบริษัทหนึ่งที่ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นกัน (สตีฟจ๊อบส์ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่)

เรื่องราวในตำนานเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าสตีฟจ๊อบส์ผู้นี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ชีวิตแต่ละช่วงนั้นราวกับโรลเลอร์โคสเตอร์ที่ได้ผ่านมาทั้งจุดสูงสุด และจุดต่ำสุด (หลายต่อหลายรอบ) มาอย่างโชกโชน ทำให้เขาในวัย 50 ได้สามารถรวบรวมประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้เรียนรู้มา นำมาสร้าง product ที่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายสิบปีมานี้ได้ คือ iphone นั้นเองครับ

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็ได้เรียนรู้เรื่องราวของสตีฟจ๊อบและบริษัทแอปเปิลก่อนที่จะมีการออกสินค้าระดับโลกอย่าง iphone และ ipad เนื้อหาภายในเล่มจะละเอียดมาก (ก็แหงล่ะดูเล่นใหญ่ขนาดนี้) เริ่มตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทแอปเิปิลเลยทีเดียว

ซึ่งแท้จริงแ้ล้วสำหรับคนที่ซื้อไอโฟนหรือไอแพด อาจจะไม่เคยสนใจเรื่องราวต่างๆของบริษัทๆนี้ แต่ที่จริงแล้วแอปเิปิลนั้นเป็น 1 ใบบริษัทจากประเทศอเมริกาที่มีความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมไอทีมาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วเลยทีเดียว(เริ่มก่อตั้งช่วงเดียวกับ microsoft) โดยเริ่มต้นจากผู้ก่อตั้ง 2 คนในโรงรถของพวกเขาคือ สตีฟจ๊อบส์ และ สตีฟวอซนิแอค โดยสตีฟจ๊อบส์เป็นนักการตลาดที่เก่งกาจ ส่วนสตีฟวอซนิแอคก็เป็นช่างเทคนิคที่อาจจะเรียกได้ว่าหาผู้ที่ีเก่งกว่าได้ยากเต็มที เขาสองคนได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์่สวนบุคคลที่ขายดีสุด(ในยุคนั้น) ที่มีชื่อว่า apple II (เด็กสมัยนี้คงไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนหล่ะ 555)

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่บริษัทได้ผ่านวิกฤตอย่างหนักเนื่องจากการเปลี่ยนผู้บริหารและไม่สามารถนำนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ตลาดได้อย่างประสบความสำเร็จ และในระหว่างนั้นเองที่เนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้ได้เล่าเรื่องราวระหว่างนี้ของสตีฟ จ๊อบส์ที่เขาได้เข้าไปมีส่วนร่วมในบริษัทผลิตการ์ตูนอย่าง Pixar โดยเริ่มแรกนั้น Pixar ไม่ได้เป็นบริษัททำหนังด้วยซ้ำ (ตอนแรกทำเกี่ยวกับพวกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์) และก็เป็นบริษัทหนึ่งที่ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นกัน (สตีฟจ๊อบส์ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่)

เรื่องราวในตำนานเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่าสตีฟจ๊อบส์ผู้นี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ชีวิตแต่ละช่วงนั้นราวกับโรลเลอร์โคสเตอร์ที่ได้ผ่านมาทั้งจุดสูงสุด และจุดต่ำสุด (หลายต่อหลายรอบ) มาอย่างโชกโชน ทำให้เขาในวัย 50 ได้สามารถรวบรวมประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้เรียนรู้มา นำมาสร้าง product ที่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายสิบปีมานี้ได้ คือ iphone นั้นเองครับ

เนื่องจากว่าหนังสือแนว vi ที่ดีๆนั้นมีน้อยเหลือเกินในปัจจุบัน การที่มีหนังสือเล่มนี้ออกมานั้นก็ทำให้เราชาว vi ได้หนังสือการลงทุนระยะยาวที่ดีมาอ่านบ้าง ไม่ต้องเจอแต่หนังสือแบบเก็งกำไรลูกเดียวทีได้ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าไม่สามารถทำกำไรได้จริงในระยะยาว

เนื่องจากว่าหนังสือแนว vi ที่ดีๆนั้นมีน้อยเหลือเกินในปัจจุบัน การที่มีหนังสือเล่มนี้ออกมานั้นก็ทำให้เราชาว vi ได้หนังสือการลงทุนระยะยาวที่ดีมาอ่านบ้าง ไม่ต้องเจอแต่หนังสือแบบเก็งกำไรลูกเดียวทีได้ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าไม่สามารถทำกำไรได้จริงในระยะยาว

บอกตามตรงว่ายังอ่านไม่จบ แต่ว่าหนังสือธุรกิจไฮเทคเล่มนี้มีข้อมูลครบถ้วนและที่สำคัญ ceo เป็นคนเขียนเอง โดยอธิบายตั้งแต่ประวัติของตัวเองไปจนถึงการที่เขาสามารถขาย zappos ซึ่งเป็นธุรกิจ ecommerce โดยขายรองเท้าเป็นหลัก ให้กับอเมซอนซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ไปในราคา 1200 ล้านดอลล่าร์ โดยเขาผู้นี้ได้ทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งก็สามารถขายกิจการไปจนกลายเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อยเ่่ช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นนักลงทุนที่จะลงทุนในบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ จนได้มาลงทุนใน zappos ซึ่งทำธุรกิจขายรองเท้าทางอินเตอร์เน็ต และได้ทำจนสามารถทำยอดขายได้มากกว่า พันล้านดอลล่าร์ หนังสือเล่มนี้ละเอียดยิบ และให้บทเรียนทางธุรกิจอย่างมากมาย สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็น ทางออฟไลน์ หรือออนไลน์ ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณให้ไม่ต้องเดินซ้ำรอยที่อาจจะทำให้เสียเงินและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้ธุรกิจของท่านผุ้อ่านกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยก็ได้ ใครล่ะจะรู้

บอกตามตรงว่ายังอ่านไม่จบ แต่ว่าหนังสือธุรกิจไฮเทคเล่มนี้มีข้อมูลครบถ้วนและที่สำคัญ ceo เป็นคนเขียนเอง โดยอธิบายตั้งแต่ประวัติของตัวเองไปจนถึงการที่เขาสามารถขาย zappos ซึ่งเป็นธุรกิจ ecommerce โดยขายรองเท้าเป็นหลัก ให้กับอเมซอนซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ไปในราคา 1200 ล้านดอลล่าร์ โดยเขาผู้นี้ได้ทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งก็สามารถขายกิจการไปจนกลายเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อยเ่่ช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นนักลงทุนที่จะลงทุนในบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ จนได้มาลงทุนใน zappos ซึ่งทำธุรกิจขายรองเท้าทางอินเตอร์เน็ต และได้ทำจนสามารถทำยอดขายได้มากกว่า พันล้านดอลล่าร์ หนังสือเล่มนี้ละเอียดยิบ และให้บทเรียนทางธุรกิจอย่างมากมาย สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็น ทางออฟไลน์ หรือออนไลน์ ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณให้ไม่ต้องเดินซ้ำรอยที่อาจจะทำให้เสียเงินและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้ธุรกิจของท่านผุ้อ่านกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยก็ได้ ใครล่ะจะรู้

อีก1 ในซีรี่ส์ไม่ยากที่คุณๆก็รู้กันอยู่แล้วว่า อ่านง่ายและตัวหนังสือน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ไม่ชอบอ่านหนังสือนานๆหรือ

แม้แต่ผู้ที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลยก็อาจจะสามารถทำความเข้าใจการเล่นหุ้นด้วยกราฟอย่างไม่ยากนัก ส่วนเรื่องเนื้อหานั้นอาจจะมีซ้ำกับคู่มือ

ดูกราฟเล่มอื่นอยู่บ้างแต่ก็นับว่า เป็นหนังสือที่ค่อนข้างละเอียดและเหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่งครับ

อีก1 ในซีรี่ส์ไม่ยากที่คุณๆก็รู้กันอยู่แล้วว่า อ่านง่ายและตัวหนังสือน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ไม่ชอบอ่านหนังสือนานๆหรือ

แม้แต่ผู้ที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลยก็อาจจะสามารถทำความเข้าใจการเล่นหุ้นด้วยกราฟอย่างไม่ยากนัก ส่วนเรื่องเนื้อหานั้นอาจจะมีซ้ำกับคู่มือ

ดูกราฟเล่มอื่นอยู่บ้างแต่ก็นับว่า เป็นหนังสือที่ค่อนข้างละเอียดและเหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่งครับ

สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วลุ้นตลอดโดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ตอนแรกนึกว่ากลับเป็นชายแล้วจะจบเลยซะอีก แหมลุ้นจนเหงื่อตก *0*

สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วลุ้นตลอดโดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ตอนแรกนึกว่ากลับเป็นชายแล้วจะจบเลยซะอีก แหมลุ้นจนเหงื่อตก *0*

เป็นหนังสืออีกเล่มในบรรดาหนังสือสองล้านแปดแสนเล่มเกี่ยวกับนักลงทุนคนนี้ ซึ่งบางทีก็ดูเหมือนจะเยอะมากเกินจนเลือกไม่ถูกหรือถ้าอ่านไปแล้วซัก 5-6 เล่ม ก็อาจจะเอียนกับหลักการ VI ที่แทบจะไม่ต่างกันในแต่ละเล่ม ถ้าท่านไม่คิดมาก ก็สามารถซื้อมาเก็บใว้อ่านเตือนใจเรื่องการใช้อารมณ์และเหตุผลในการลงทุนได้

เป็นหนังสืออีกเล่มในบรรดาหนังสือสองล้านแปดแสนเล่มเกี่ยวกับนักลงทุนคนนี้ ซึ่งบางทีก็ดูเหมือนจะเยอะมากเกินจนเลือกไม่ถูกหรือถ้าอ่านไปแล้วซัก 5-6 เล่ม ก็อาจจะเอียนกับหลักการ VI ที่แทบจะไม่ต่างกันในแต่ละเล่ม ถ้าท่านไม่คิดมาก ก็สามารถซื้อมาเก็บใว้อ่านเตือนใจเรื่องการใช้อารมณ์และเหตุผลในการลงทุนได้